Home » World of Design » Tawipop, 2004

Tawipop, 2004

Posted 11 April 2014

กาลเวลาที่ไร้พรมแดน นำพาเธอสู่ "รอยต่อ" ครั้งสำคัญที่สุด....ในประวัติศาสตร์ชาติสยาม

Voluminous historical detail is served up with a time-travel motif in "The Siam Renaissance," an overwrought and arty Asian romancer. Top-of-the-range production values ensure pic is exquisite to watch, but time isn't the only thing that gets warped in a confused narrative which glides between 19th-century Siam and contempo Thailand. Skedded for local release in late February, expensive pic, which opened the Bangkok fest to a dull response, looks unlikely to recoup its investment.

After a prologue set in 1893, which introduces some mysterious French documents, film begins as a trunk with said papers surfaces in 2003. Maneejan (model Florence Vanida F.), a Thai history buff residing in Paris, is called in by the local consulate to investigate the documents and, on her return to Thailand for research, finds herself uncontrollably flitting between past and present. After foretelling the future to her forbears and enrapturing a nobleman, the sultry beauty becomes entwined in her country's past struggles against cultural colonialism. Debuting director (and seasoned editor) Surapong Pinijkhar shows fine technical smarts, but the leaden scripting is matched by stiff performances. Original title translates as "In Two Lands."


Project Profile
หนังเรื่องนี้มีหลายชื่อ  ตั้งแต่ชื่อเดิม “ทวิภพ”, ชื่อสากล “The Renaissance”, ชื่อจากป้าขายก๋วยเตี๋ยวที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ “ทวิภพมัจจุราช” และชื่อที่เด็กหนุ่มอยุธยาร้องเข้าหูมาเป็นเพลง “ทวิภพพเนจร”  ซึ่งสองชื่อหลังบอกเล่าเรื่องราวการทำงานของพวกเราได้อย่างดีเยี่ยม
“ทวิภพ” เป็นภาพยนตร์ที่คุณอังเคิล (อดิเรก วัฏลีลา) โปรดิวเซอร์แห่งบริษัทฟิล์มบางกอก และคุณแกละ (สุรพงษ์  พินิจค้า) ผู้กำกับจากบริษัทอิมเมจแอนด์มอนตาจ เป็นผู้ร่วมกันปลุกปั้นจากบทประพันธ์เดิมของ “ทมยันตี” ให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการตีความ จับประเด็น และนำเสนอผ่านมุมมองและวิธีการของคุณแกละ     โดยมีบริษัทเธิร์ดไดเมนชั่นจำกัด เป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบงานสร้างและกำกับศิลป์ตั้งแต่ พระบรมมหาราชวัง ยัน ไม้ขีดไฟ
เราเตรียมการถ่ายทำ (Pre-production) อันได้แก่การหาสถานที่ถ่ายทำ, เขียนแบบฉาก, สร้างฉากจำลอง, สร้างอุปกรณ์ประกอบฉาก ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2544 เรื่อยมาจนเริ่มถ่ายทำ (Production) คิวแรกเมื่อ 2 มกราคม 2545

 

ต้นกรกฎาคม 44 / เธิร์ดไดเมนชั่น - อิมเมจแอนด์มอนตาจ
อิมเมจฯติดต่อเราไปคุยเรื่องโปรเจคทวิภพ ซึ่งน่าสนใจ  มนต์รักทรานซิสเตอร์ยังถ่ายทำอยู่ เราทำตัวเป็นอะมีบา แตกทีมส่วนหนึ่งไปเริ่มงานทวิภพ
คุณแกละกับคุณแมวเล่าประเด็นและบรรยากาศของหนังให้เราฟังว่า เป็นทวิภพในยุค Renaissance ของสยาม  เหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นสมัยรัชกาลที่ 4  ตั้งแต่เซอร์จอห์นเบาริ่งราชทูตจากอังกฤษเข้ามาเจรจาสนธิสัญญากับสยาม  เป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงมากมาย และนำมาสู่เหตุการณ์ ร.ศ.112 ในสมัยรัชกาลที่ 5  ตัดสลับกับเรื่องราวในปัจจุบัน ซึ่งมณีจันทร์ นักการทูตไทยในฝรั่งเศสมีเหตุให้ต้องกลับประเทศไทย และได้ทะลุภพกลับไปเจอเหตุการณ์ในอดีต
ไม่เหมือนทวิภพที่เคยดู คุณแกละใส่เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เข้าไปมากขึ้น ถอยกลับไปในยุคสมัยที่ไกลขึ้น   เราน่าจะได้ทำงานสนุกๆกันอีกแล้ว

 

เรื่องย่อ
ปีพ.ศ.2546 ที่ประเทศฝรั่งเศส  ได้ค้นพบเอกสารทางประวัติศาสตร์ชิ้นใหม่ ”Voyageur” ซึ่งในเอกสารนั้นได้บันทึกถึงประเทศไทย หรือ “สยาม” ในสมัยรัชกาลที่ 4 นั่นคือประมาณ 150 ปีมาแล้ว เกิดข้อถกเถียงว่าข้อความที่ถูกบันทึก คือความจริง หรือเป็นเพียงนิยายประโลมโลก   มณีจันทร์ สาวนักการทูตไทยประจำกรุงปารีสได้รับมอบหมายให้กลับประเทศไทย   เพื่อสืบหาความจริงจากเอกสารดังกล่าว    นับแต่เธอได้เปิดอ่านเอกสารนั้น เท่ากับเธอได้ก้าวล่วงกลับสู่อดีตแล้ว
มณีจันทร์ ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์สยาม ตั้งแต่เมื่อเซอร์จอห์นเบาริ่ง ราชทูตจากอังกฤษเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยาม    เธอได้พบกับหมอบรัดเลย์ มิชชันนารีคนสำคัญผู้บุกเบิกวงการหนังสือพิมพ์และการแพทย์สมัยใหม่   เธอได้เข้าสู่ดินแดนต้องห้ามในพระราชฐานชั้นในด้วยความสนิทสนมกับแหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ ครูสอนภาษาอังกฤษของเจ้าจอมหม่อมห้าม และเจ้าฟ้าในองค์สมเด็จพระจอมเกล้าฯ     ในยุคที่สยามจำต้องปรับวัฒนธรรม เปลี่ยนโฉมหน้าเป็น “สยามใหม่” เพื่อการยอมรับของอารยประเทศทั้งหลาย และหลีกเลี่ยงการตกเป็นอาณานิคมของประเทศเหล่านั้น   มณีจันทร์รู้ดีว่า นั่นเป็นเพียงการชะลอเวลาเท่านั้น   เหตุการณ์ทั้งหมดกำลังนำพาสยามไปสู่กรณีพิพาท ร.ศ.112  ซึ่งสยามต้องยอมเสียดินแดนแก่ฝรั่งเศสในที่สุด
ขณะที่ความจริงกับความฝันกลายเป็นสิ่งเดียวกัน   และ ปัจจุบันกับอดีตกลายเป็นสิ่งเดียวกัน  มณีจันทร์ได้พบกับฟรองซัว ซาเวีย นักเดินทางหนุ่มชาวฝรั่งเศส ผู้บันทึก”Voyageur” เธอได้พบกับหลวงอัครเทพวรากร  และหลวงราชไมตรีแห่งราชสำนักสยาม ซึ่งต่างมีความสนใจในมณีจันทร์หญิงสยามแปลกหน้าแปลกกิริยาจากหญิงอื่น  และเธอได้พรากจากไรวัต ชายหนุ่มของปัจจุบัน ผู้ซึ่งรักและดูแลเธอมาตลอด 
เหตุการณ์ของหัวใจจะเป็นไปอย่างไร  มณีจันทร์ไม่อาจคาดเดาได้   แต่เหตุการณ์ของสยามประเทศที่จะต้องเสียดินแดนให้แก่ฝรั่งเศสในกาลต่อมา  เธอย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ   ในวินาทีที่เธอสามารถแก้การณ์นั้นได้  การเปลี่ยนสิ่งที่ได้ผ่านไป  อาจใช่วิธีการที่ดี  หรือไม่!